
History of Interior
“ไม่มีอะไรใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์” ข้อความบนบานประตูทางเข้าอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ข้อความที่จารึกไว้นี้แสดงถึงความรุ่งเรืองยิ่งใหญ่ของอารยธรรมอียิปต์ในอดีต ที่สามารถคิดค้นประดิษฐ์สิ่งต่างๆได้มากมายจนกระทั่งไม่มีอะไรใหม่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว สไตล์(Style) แนวความคิด(Concept) ที่มีอยู่ในปัจจุบันล้วนได้รับอิทธิพลมาจากอดีตมาไม่มากก็น้อย นั่นคือเหตุผลที่เราเริ่มต้นเรียนวิชาการออกแบบจากวิชาประวัติศาสตร์ (History of Interior)
เนื้อหาการเรียนเล่าตั้งแต่จุดเด่นเอกลักษณ์ ย้อนกลับไปจนถึงอิทธิพลที่มีผลต่องานออกแบบของแต่ยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น ถิ่นที่อยู่ สภาพภูมิอากาศ ศาสนา การปกครอง วัฒนธรรม วิธีการใช้ไปจนถึงวัสดุท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลสู่งานออกแบบตกแต่งทั้งสิ้น ผู้เรียนจะสามารถนำความรู้ที่ได้จากเนื้อหาส่วนนี้ ไปใช้อ้างอิงหรือประยุกต์ได้กับงานออกแบบของตนเอง
ถึงแม้จะเป็นเนื้อหาจะเป็นในเชิงทฤษฎี แต่การเรียนการสอนในห้องเรียนกลับให้บรรยากาศสนุกสนานไม่น่าเบื่อ เนื่องจากผู้สอนเลือกที่จะเล่าเนื้อหาเหมือนพาผู้เรียนไปท่องเที่ยวอารยธรรมต่างๆ สถานที่ที่ทุกท่านคุ้นเคย เพียงแต่เปิดมุมมองที่น่าสนใจหรืออาจจะไม่ทันได้สังเกตุ สอดแทรกเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ เมื่อเข้าใจเนื้อหาแล้วก็จะเริ่มทดลองให้นักเรียนได้ลองออกแบบ แสดงแนวความคิด ที่อ้างออิงจากเนื้อหาที่เรียน เช่น ลายเรขาคณิตที่นำมาจากอารยธรรมอะไร แล้วใช้ส่วนนี้ในการไปประยุกต์ออกแบบอะไรได้บ้าง

Interior Styling Theory
ทฤษฎีและหลักการออกแบบตกแต่งภายใน
หลังจากเข้าใจประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และเอกลักษณ์ของการออกแบบตกแต่งภายในแต่ละยุคสมัยแล้วก็จะนำผู้เรียนเข้าสู่เนื้อหาในเรื่องการออกแบบในปัจจุบัน ทั้งในแง่ทฤษฎีและในเรื่องรายละเอียดการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฐีของสี การจัดคู่สี รูปทรงและการจัดวางรูปทรงต่างๆ เนื้อหาเป็นการสร้างความเข้าใจมุมมองที่มีต่อศิลปะและงานออกแบบ ความเข้าใจในพื้นฐานเหล่านี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนสามารถออกแบบตกแต่งและจัดวางสิ่งต่างๆได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม โดดเด่นดึงดูดสายตา มีความรู้ความเข้าใจจนสามารถต่อยอดมุมมองได้เอง พัฒนาสู่งานออกแบบได้อย่างไร้ขีดจำกัด
และในส่วนของรายละเอียดจะเล่าไปถึงการแนะนำสิ่งต่างๆที่ควรทราบในงานออกแบบตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็น ม่าน พรม เฟอร์นิเจอร์หรือการบุต่างๆ ยกตัวอย่างการเรียนการสอนเช่น หัวข้อม่าน ผู้สอนจะอธิบายว่า ม่านมีกี่ประเภท แต่ละประเภทใช้งานอย่างไร มีอุปกรณ์ประกอบอะไรบ้างที่ต้องใช้ในการออกแบบม่าน สำหรับม่านแล้วเราสามารถลงรายละเอียดตกแต่งอะไรได้บ้าง ไปจนถึงทริคเกร็ดความรู้เรื่องการติดตั้งสิ่งต่างๆในงานออกแบบตกแต่งภายใน
บรรยากาศภายในชั้นเรียนจะเป็นการบรรยายสลับกันกับการทดลองทำแบบฝึกหัดในชั้นเรียน ผู้เรียนจะได้ทดลองออกแบบตกแต่งภายในจากหัวข้อเนื้อหาที่ได้เรียน ทำให้บรรยากาศการเรียนสนุกสนาน นึกภาพตามและจับต้องได้งาน เป็นการเรียนรายละเอียดเนื้อหาไปพร้อมๆกับการลงมือออกแบบ
Concept, Budget and Project Proposal
เป็นอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญของงานออกแบบตกแต่งภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดเนื้อหาการเรียนเข้าสู่การประกอบอาชีพจริงควบคู่ไปกับคำแนะนำจากผู้สอนมากประสบการณ์ เนื้อหาในส่วนน้ีจะทำให้ผู้เรียนสามารถนำเสนอแนวความคิดการออกแบบที่สร้างสรรค์ของตนเอง นำมาประเมิณราคาการออกแบบตกแต่ง ไปสู่การนำเสนอโปรเจคการออกแบบตกแต่งต่อลูกค้า หรือแม้กระทั่งสามารถมองภาพรวมในงานออกแบบตกแต่งของตนเองได้
บรรยากาศในชั้นเรียน จะให้ผู้เรียนได้สร้างสรรค์งานออกแบบงานออกแบบตกแต่งของตนเองขึ้นมา หรืออาจจะเป็นจากโจทย์ที่ผู้สอนให้มา นำมาประเมิณราคาเบื้องต้นร่วมกันใหนห้องเรียน เหมือนได้ประกอบอาชีพจริง ก่อนจะให้ผู้เรียนได้ทดลองทำแบบการนำเสนอโปรเจคด้วยตนเอง นอกจากนี้ในแต่ละขั้นตอนผู้สอนจะได้สอดแทรกเทคนิคคำแนะนำจากประสบการณ์การทำงานของตนเองมาสอนในชั้นเรียน เช่นการคิดราคางานออกแบบอย่างไรจะคุ้มค่ากว่า คิดราคาอย่างไรควรระวัง เป็นต้น
Interior Styling Studio
หลังจากได้เรียนรู้พื้นฐานการออกแบบ ไปจนถึงเทคนิคการออกแบบตกแต่งในส่วนเนื้อหาเสร็จแล้ว ก็จะเข้าสู่การลงมือปฏิบัติในสตูดิโอ สตูดิโอแรกที่จะได้เรียนเป็นสตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในที่จะเน้นไปในเรื่องของการตกแต่งจัดวางสิ่งของภายในพื้นที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นห้องต่างๆ บ้าน หรือคอนโด สอนให้ผู้เรียนสามารถตกแต่งและจัดวางสิ่งของภายในที่อยู่อาศัยได้อย่างสร้างสรรค์ มีรสนิยม แถมยังน่าอยู่ น่าใช้
เล่าถึงบรรยากาศการเรียนในวิชานี้ ผู้สอนจะเกริ่นในเนื้อหาภาคทฤษฏีเล็กน้อย ก่อนให้ผู้เรียนลงมือตกแต่งจัดวางสิ่งของภายในห้อง โดยการทำ Mood Board ในช่วงแรกของสตูดิโอจะเป็นการจัดวางที่สื่อถึงแนวความคิด ไม่ว่าจะเป็นอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ เช่นการออกแบบตกแต่งแนวหลุยส์ การออกแบบตกแต่งโมเดิร์น การออกแบบตกแต่งยุค 60s หรืออ้างอิงจากคำจำกัดความออกมาเป็น Theme เช่น ห้องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคลื่นทะเล เป็นต้น ก่อนที่ช่วงหลังของสตูดิโอจะเข้มข้นขึ้น นอกจากแนวความคิดที่สร้างสรรค์แล้ว ผู้เรียนจะได้นำเสนอการออกแบบตกแต่งที่มีรสนิยมมากยิ่งขึ้น การจัดวางให้มีสไตล์ ตกแต่ให้น่าอยู่อาศัย ภายใต้คำแนะนำจากผู้สอนที่มีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น
เมื่อจบสตูดิโอนี้ออกไปแล้ว ผู้เรียนจะสามารถออกแบบตกแต่งภายในได้อย่างเชี่ยวชาญ สามารถจัดวางสิ่งของภายในที่อยู่อาศัยได้อย่างมีสไตล์ แถมยังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดเพิ่มเติมเพื่อประกอบอาชีพ เข้าสู่การออกแบบตกแต่งห้องตัวอย่าง หรือห้องเพื่อการขายได้ ในอนาคตอีกด้วย
Prop Styling Studio
สตูดิโอการออกแบบตกแต่งสิ่งของ ที่สอนให้ผู้เรียนสามารถจัดวางสิ่งต่างๆได้อย่างมีสไตล์ การจัดวางและการตกแต่งที่สื่อถึงแนวความคิด สามารถสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาโดดเด่น ดึงดูดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานขาย(Commercial Styling) ที่ไม่ใช่เพียงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ผลงานออกมาสวยงามเท่านั้น แต่ต้องมีดึงดูดมีสไตล์ตอบโจทย์การตลาดให้สามารถขายของได้ด้วย
เล่าถึงบรรยากาศการเรียนในวิชานี้ เริ่มต้นเนื้อหาจะเป็นทฤษฎีในช่วงเช้า ผู้สอนบรรยายเล่าถึงการจัดองค์ประกอบต่างๆ การจัดหน้าร้าน ตัวอย่างเนื้อหาเช่น Window Display คืออะไร มีอะไรที่ต้องออกแบบ รวมไปถึงเกร็ดความรู้ เคล็ดลับเทคนิคการออกแบบจัดวาง ที่จะทำให้งานออกแบบออกมาน่าสนใจ และสามารถขายดึงดูดลูกค้าได้ ก่อนเข้าสู่สตูดิโอออกแบบร่วมกัน ให้ผู้เรียนได้ทดลองทำ Mood Board สำหรับจัดวางสิ่งของ คิด Theme ของการจัดวาง แล้วออกมานำเสนอร่วมกันในสตูดิโอ ก่อนที่สัปดาห์ถัดไปจะเป็นการจัดวางสิ่งของสำหรับงานขายโดยเฉพาะ ผู้เรียนจะได้เลือกสิ่งของที่ชื่นชอบสนใจมาจัดวางพร้อมๆคำแนะนำจากผู้สอนมากประสบการณ์ เพื่อให้งานออกมาได้ตรงตามแนวความคิดที่วางไว้อย่างสร้างสรรค์สวยงาม ก่อนนำสินค้าหรือสิ่งของนั่นๆมาถ่ายรูป เพื่อนำเสนอเป็นผลงานขั้นสุดท้าย
เมื่อจบสตูดิโอนี้ออกไป ผู้เรียนจะสามารถจัดวางสิ่งของเพื่องานขายได้อย่างเชี่ยวชาญ มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น สร้างสรรค์ตอบโจทย์ในเชิงศิลปะ ดึงดูดความสนใจลูกค้าตอบโจทย์ในเชิงพาณิชย์ แถมยังสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคที่ได้เรียนในห้องเรียน มาประยุกต์ใช้ในงานอื่นๆต่อไปในอนาคต