Landscape Design สถาบัน DiiSchool
Site Analysis
การวิเคราะห์พื้นที่
Duration : 6 Hrs.
หากพูดถึงงานออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม จะพบว่าเป็นงานออกแบบที่มีหลากหลายขนาดสเกลของงาน สามารถเป็นไปได้ตั้งแต่สวนตกแต่งภายในบ้านหรือ Gardening การออกแบบภูมิทัศน์หรือ Landscaping ที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เป็นศิลปะในการจัดวางและเพิ่มคุณค่าให้กับพื้นที่กลางแจ้งด้วยต้นไม้ โครงสร้าง เพื่อความงามและเพื่อการใช้งานได้จริง มีการออกแบบและอาจมีการก่อสร้างเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ ประติมากรรม หรือถนนหนทาง เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับพักอาศัย สันทนาการ หรืออาจรวมถึงพื้นที่สาธารณะ เช่นสวนสาธารณะก็เป็นได้
การบรรยายในส่วนนี้จะเป็นการเริ่มทำความรู้จักกับงานออกแบบและตกแต่งสวนก่อน เป็นการทำความเข้าใจในคำจำกัดความและหน้าที่ต่างๆที่จะใช้ในงานออกแบบและตกแต่งสวน เช่น Gardening คืองานประเภทไหนใครทำได้บ้าง Landscaping คืองานประเภทไหนใครทำได้บ้าง Hardscape คืออะไร Softscape คืออะไร เป็นต้น ก่อนจะเริ่มต้นการบรรยายเนื้อหาประวัติศาสตร์ของงานออกแบบตกแต่งสวน เล่าถึงประวัติความเป็นมาจากทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาหลักซึ่งก็คือ การวิเคราะห์พื้นที่(Site Analysis)
การวิเคราะห์พื้นที่หรือการทำ Site Analysis เป็นขั้นตอนแรกที่นักออกแบบมืออาชีพเริ่มลงมือทำก่อนวางแผนออกแบบและตกแต่งสวน จะทำให้ทราบได้ว่าพื้นที่ที่กำลังจะออกแบบนั้นมีปัจจัยอะไรที่ควรพิจารณาและจะส่งผลต่อการออกแบบอย่างไร เช่น ที่ตั้งและขนาดของโครงการ สภาพดินปัจจุบัน ทิศทางของแสง ทิศทางของลม ผลกระทบทั้งทางลบและทางบวก วิวและมุมมองของพื้นที่ มุมมองที่ดีส่วนไหนควรเน้น มุมมองที่ไม่น่ามองส่วนไหนควรแก้ไข ยกตัวอย่างการนำไปใช้เช่นต้องการออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้ร่มเงา ก็ควรทราบว่าบริเวณนั้นจะเกิดร่มเงาเวลาใด ตามทิศทางไหน และมีการใช้งานอย่างไร การทำบทวิเคราะห์จะทำให้เราสามารจัดลำดับและทำให้การออกแบบเป็นไปอย่างเป็นระบบมากขึ้น เพื่อเข้าใจข้อมูลและนำไปพัฒนาการออกแบบได้อย่างนักออกแบบมืออาชีพต่อไป เมื่อจบเนื้อหาในส่วนนี้นักเรียนจะสามารถสร้างเช็คลิสท์ในการออกแบบ หรือที่เรียกว่าโปรแกรม(Programing) งานของตนเองได้อย่างง่ายๆ มีแนวความคิดของการออกแบบที่ไม่ใช่เพียงสวยงามเท่านั้นแต่ยังสามารถแก้ปัญหาพื้นที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน
Landscape Material(Plant Material/Hardscape Material)
วัสดุในงานภูมิทัศน์ วัสดุพืชพรรณ และองค์ประกอบ
Duration : 18 Hrs.
ก่อนอื่นเราต้องทราบว่าการออกแบบภูมิทัศน์(Landscape) นั้น มีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ Hardscape หรือวัสดุเนื้อแข็งและไม่มีชีวิต เช่นคอนกรีต หิน แผ่นทางเดินเป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ Softscape หรือวัสดุเนื้ออ่อนและมีชีวิต เติบโตได้ เช่น ต้นไม้ หญ้า เป็นต้น
ในส่วนแรกที่วิชานี้จะพูดถึงคือ Softscape วัสดุเนื้ออ่อน โดยเฉพาะในหัวข้อข้องวัสดุพืชพรรณหรือ Plant Material หน้าที่ของวัสดุพืชพรรณ ไม่ว่าจะเป็นความงาม(Aesthetics) การบดบัง(Screening) สร้างความเป็นส่วนตัว แสดงขอบเขตพื้นที่ บดบังมุมมองที่ไม่น่ามอง ควบคุมทิศทางสัญจร(Circulation Control) การเคลื่อนที่ของคน เป็นเนื้อหาที่แนะนำให้รู้จักกับพืชพรรณประเภทต่างๆ ลงรายละเอียดไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ชนิด ลักษณะรูปทรง รวมถึงการนำไปใช้งาน เพราะพืชพรรณแต่ละชนิดมีประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นสร้างร่มเงา ป้องกันแดด ลม หรือแม้กระทั้งเสียง เมื่อจบเนื้อหาผู้เรียนสามารถเลือกพืชพรรณที่เหมาะสม ตอบสนองความต้องการและประโยชน์ใช้สอยรวมทั้งสามารถออกแบบภูมิทัศน์ที่สวยงามได้ ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาอีกพาร์ทคือวัสดุเนื้อแข็ง (Hardscape) ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้ในส่วนของพืชพรรณไม้ เพราะการออกแบบภูมิทัศน์นั้นจะนับรวมไปถึงการออกแบบสิ่งก่อสร้างภายในสวนด้วย ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ ประติมากรรมหรือแม้กระทั่งทางเดิน ยกตัวอย่างเนื้อหาที่ใช้บรรยายในส่วนนี้ เช่น การเลือกและออกแบบพื้นหิน พื้นไม้หรือกระเบื้อง
บรรยากาศการเรียนการสอนจะเป็นไปอย่างสนุกสนานไม่น่าเบื่อถึงแม้จะเป็นในเรื่องของรายละเอียดพืชพรรณเพราะไม่เพียงแต่เป็นการบรรยายในชั้นเรียนเท่านั้น แต่มีการออกไปศึกษาพืชพรรณต่างๆในพื้นที่จริงนอกห้องเรียน ทำให้ผู้เรียนได้รู้จัก เห็นและสัมผัสพรรณไม้จริงที่นักออกแบบภูมิทัศน์ทำ ภายใต้คำแนะนำจากผู้สอน
Drawing For Garden and Landscape
การเขียนแบบสวนและภูมิทัศน์
Duration : 12 Hrs.
หลังจากเรียนรู้ทั้งเนื้อหาทฤษฎี ได้ทำความรู้จักกับพรรณพืชไม้ประเภทต่างๆแล้ว ก็จะเข้าสู่อีกหนึ่งกระบวนการสำคัญในการออกแบบ นั่นก็คือเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการออกแบบและการเขียนแบบสวนและภูมิทัศน์(Landscape Drawing) เป็นขั้นตอนที่ใช้สำหรับสื่อสารแนวความคิดของผู้ออกแบบนำออกมาสู่การก่อสร้างจริง ไม่ว่าจะเป็นแบบสองมิติ(Landscape Drawing) หรือการเขียนภาพแนวความคิด(Perspective) ภายใต้คำแนะนำจากผู้สอนผู้มากประสบการณ์ทำให้เนื้อหาการเขียนแบบที่ดูเหมือนยากนั้นเข้าใจได้ง่ายสามารถเขียนแบบได้แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน
บรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเรียนเป็นการที่ผู้สอนนำแบบประกอบที่ใช้สำหรับอธิบายแบบจริงๆ มายกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจเนื้อหาได้ง่าย อธิบายสัญลักษณ์ประกอบแบบต่างๆ รวมทั้งให้นักเรียนได้ทดลองเขียนแบบด้วยตัวเองได้อย่างง่ายๆ จะได้ทราบว่าในการทำงานวิชาชีพจริงนั้น นักออกแบบภายในใช้สัญลักษณ์รู้แบบใดในการทำงาน หมายความว่าอย่างไร สามารถนำไปพูดคุยติดต่อกับผู้รับเหมา ช่าง และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ในอนาคต หรือหากผู้เรียนสามารถพัฒนาการเขียนแบบจนสามารถเขียนแบบสื่อสารด้วยตนเอง ก็จะทำให้สามารถลดต้นทุนการทำงานได้อีกด้วย
เมื่อจบเนื้อหาผู้เรียนสามารถวาดเพื่อสื่อสารการออกแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพทัศนียภาพ(Perspective) หรือการเขียนแบบเพื่องานออกแบบและก่อสร้าง(Landscape Drawing)ได้ เช่น Plan, Elevation, Section รวมถึงแบบขยายรายละเอียด(Detail) อื่นๆ ใช้แบบดังกล่าวไปติดต่อกับผู้รับเหมา ผู้ขายพืชพรรณไม้ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆได้
Landscape Design Studio
สตูดิโอการออกแบบสวนและภูมิทัศน์
Duration : 24 Hrs.
ส่วนสุดท้ายของการเรียนการออกแบบสวนและภูมิทัศน์เป็นสตูดิโอภาคปฏิบัติ จุดประสงค์คือเพื่อให้นักเรียนได้นำความรู้ทั้งหมดที่เรียนมา นำมาประมวลผลเป็นงานออกแบบจริง อย่างนักออกแบบภูมิทัศน์มืออาชีพ ได้เรียนรู้และทดลองลงมือทำตามขั้นตอนวิธีการของนักออกแบบ(Design Process) จะได้เริ่มทำการออกแบบตั้งแต่การวิเคราะห์ที่ตั้ง(Site Analysis) วิเคราะห์ผู้ใช้งาน(User Analysis) นำมาสู่การวิเคราะห์และเสือกพรรณพืชที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบ สื่อสารแนวความคิด(Concept) สู่ภาพจำลองภูมิทัศน์(Perspective) และการเขียนแบบภูมิทัศน์(Drawing) นำเสนออกมาใช้ชั้นเรียนอย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบนำเสนอ(Presentation) หรือทำแบบจำลองสามมิติ(Model) ภายใต้คำแนะนำจากผู้สอนนักออกแบบมืออาชีพ ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารแนวความคิดตนเองออกมาเป็นการออกแบบสวนและภูมิทัศน์ได้ตรงตามความต้องการของตนเอง สวยงาม ถูกหลักและเหมาะสม ตอบสนองความต้องการและประโยชน์ใช้สอย
ยกตัวอย่างงานออกแบบที่จะได้ทำการออกแบบในสตูดิโอนี้ เช่น การออกแบบสวนภายในที่อยู่อาศัย(Garden Design) สวนภายในบ้านเองก็จำเป็นต้องอาศัยการจัดสรรและการออกแบบที่ดี แต่สิ่งที่จะได้จากการเริ่มต้นออกแบบสวนขนาดเล็กคือสไตล์ ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านหรือเจ้าของพื้นที่ การออกแบบคัดเลือกพืชพรรณตามความต้องการของเจ้าของ ก่อนที่จะได้ออกแบบโจทย์ที่ยากขึ้นเป็นการออกแบบพื้นที่ภายนอกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ระเบียง จุดวางศาลา สระน้ำ เนื่องจากภาพรวมการออกแบบภูมิทัศน์นั้นไม่ใช่เพียงการออกแบบพื้นที่สำหรับพืชพรรณอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงพื้นที่สันทนาการสำหรับจัดกิจกรรมอื่นๆด้วย การออกแบบสวนและภูมิทัศน์จึงไม่ใช่เพียงการเลือกใช้ Softscape(วัสดุเนื้ออ่อน) ที่มีชีวิตสามารถเติบโตได้ อย่างเช่น ต้นไม้ หญ้า แต่ยังรวมถึงการใช้ Hardscpae(วัสดุเนื้อแข็ง) ซึ่งหมายถึงองค์ประกอบสิ่งไม่มีชีวิตในงานออกแบบด้วย ไม่ว่าจะเป็น หิน ทางเดิน หรือกระเบื้อง ผู้เรียนจะได้ทดลองออกแบบตามโจทย์ที่หลากหลายขนาดและความต้องการ ได้วิเคราะห์พื้นที่และความต้องการเพื่อนำข้อมูลส่วนนั้นมาใช้ในการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม สัมพันธ์กับการใช้งาน สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนอย่างไรให้มีรสนิยมและสไตล์ตรงกับกับความต้องการ เพื่อบดบังมุมมองที่ไม่น่ามอง กันเสียงกันสายตาจากภายนอก จัดสวนอย่างไรเพื่อเป็นการสนับสนุนจุดเด่นมุมมองที่ดีในการออกแบบ เมื่อจบเนื้อหาแล้วสามารถที่จะประมวลผลทฤษฐีที่ได้เรียนมา นำมาออกแบบเป็นงานออกแบบสวนและภูมิทัศน์ที่สวยงามตอบสนองความต้องการและประโยชน์ใช้สอย